ประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของเครื่องฟอกหนังแบบถังไม้ที่ทันสมัยสามารถประเมินได้จากประเด็นต่อไปนี้:
1.การใช้สารเคมี:ประเมินว่าเครื่องฟอกหนังใช้สารเคมีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อทดแทนสารเคมีอันตรายแบบเดิมระหว่างการใช้งานหรือไม่ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
2.การบำบัดน้ำเสีย:ตรวจสอบว่าเครื่องฟอกหนังมีเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดสารอันตรายในน้ำเสีย เช่น โครเมียมโลหะหนัก ความต้องการออกซิเจนทางเคมี (COD) แอมโมเนียไนโตรเจน ฯลฯ
3.การปล่อยก๊าซเสีย:ประเมินว่าเครื่องฟอกหนังมีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเสีย เช่น ฝุ่น สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ฯลฯ หรือไม่ และได้ใช้เทคโนโลยีฟอกก๊าซเสียที่มีประสิทธิภาพหรือไม่
4.การจัดการขยะมูลฝอย:ตรวจสอบว่าขยะมูลฝอยที่เกิดจากเครื่องฟอกหนังในระหว่างกระบวนการผลิตได้รับการจัดการและรีไซเคิลอย่างถูกต้องหรือไม่ รวมถึงเศษเส้นผม เศษหนังสีเทา เป็นต้น
5.การควบคุมเสียงรบกวน:ประเมินระดับเสียงที่เกิดจากเครื่องฟอกหนังในระหว่างการทำงาน และประเมินว่ามีการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบของเสียงหรือไม่
6.ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน:ตรวจสอบว่าเครื่องฟอกหนังใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานเพื่อลดการใช้พลังงานและปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานหรือไม่
7.ระบบดัชนีประเมินผลผลิตสะอาด:อ้างอิงจาก "ระบบดัชนีการประเมินการผลิตที่สะอาดสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง" เพื่อประเมินประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของเครื่องฟอกหนังในแง่ของกระบวนการผลิต อุปกรณ์ วัตถุดิบและวัสดุเสริม คุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ ระบบการจัดการ ฯลฯ
8.การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม:พิจารณาผลกระทบของเครื่องฟอกหนังต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรการผลิต รวมไปถึงการรวบรวมวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การใช้ผลิตภัณฑ์ และการกำจัด
9.การปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง:ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการผลิตและการปล่อยมลพิษของเครื่องฟอกหนังเป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานการปกป้องสิ่งแวดล้อมระดับชาติและระดับท้องถิ่น เช่น "มาตรฐานสิ่งแวดล้อมนิเวศวิทยาแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน"
จากการประเมินอย่างครอบคลุมในประเด็นต่างๆ ข้างต้น เราสามารถเข้าใจประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของเครื่องฟอกหนังแบบถังไม้สมัยใหม่ได้อย่างถ่องแท้ และจะดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เวลาโพสต์ : 09-08-2024